Soft Starter กับ Inverter ต่างกันยังไง?
Soft Starter กับ Inverter ต่างกันยังไง?
เลือกใช้อะไรให้เหมาะกับงานโรงงาน
ในระบบควบคุมมอเตอร์ไฟฟ้า โดยเฉพาะในโรงงานอุตสาหกรรม เรามักจะได้ยินชื่อ Soft Starter และ Inverter (Variable Frequency Drive: VFD) อยู่บ่อยๆ ทั้งสองอุปกรณ์นี้มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมการสตาร์ทและการทำงานของมอเตอร์ แต่มีหลักการทำงานและการใช้งานที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน การเลือกใช้อย่างเหมาะสมจะช่วย ประหยัดพลังงาน ลดการสึกหรอของเครื่องจักร และเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต
1. Soft Starter คืออะไร?
Soft Starter คืออุปกรณ์ที่ช่วยควบคุมแรงดันไฟฟ้าที่จ่ายให้มอเตอร์ในช่วงเริ่มสตาร์ท เพื่อให้มอเตอร์ค่อยๆ เพิ่มความเร็ว ลดกระแสกระชาก (Inrush Current) และลดแรงกระชากทางกล (Mechanical Stress) เหมาะกับงานที่ต้องการลดการสึกหรอของชิ้นส่วนและไม่ต้องการควบคุมความเร็วหลังจากสตาร์ท
ข้อดี
- ลดแรงกระชากไฟฟ้าและเครื่องจักร
- ยืดอายุการใช้งานมอเตอร์
- ติดตั้งง่าย และราคาถูกกว่า Inverter
ข้อจำกัด
- ใช้ควบคุมเฉพาะตอนสตาร์ทและหยุด
- ไม่สามารถปรับความเร็วรอบขณะทำงาน
2. Inverter คืออะไร?
Inverter หรือ VFD คืออุปกรณ์ที่ควบคุมความเร็วและแรงบิดของมอเตอร์โดยการปรับความถี่ของไฟฟ้าที่จ่ายให้มอเตอร์ สามารถควบคุมรอบได้ทั้งในช่วงสตาร์ท ระหว่างทำงาน และตอนหยุด ทำให้เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความยืดหยุ่นสูง
ข้อดี
- ปรับความเร็วรอบได้ตามต้องการ
- ประหยัดพลังงาน โดยเฉพาะโหลดแบบปั๊มและพัดลม
- ช่วยปกป้องมอเตอร์ด้วยฟังก์ชันป้องกันหลายรูปแบบ
ข้อจำกัด
- ราคาสูงกว่า Soft Starter
- ต้องการการติดตั้งและการตั้งค่าที่ซับซ้อนกว่า
3. เลือกใช้อย่างไรให้เหมาะสม?
- ใช้ Soft Starter → เหมาะกับงานที่ต้องการลดกระแสกระชากขณะสตาร์ท เช่น เครื่องบด, เครื่องสูบ, สายพานลำเลียง ที่ความเร็วคงที่
- ใช้ Inverter → เหมาะกับงานที่ต้องการปรับความเร็วรอบ เช่น พัดลม, ปั๊ม, เครื่องผสม หรือระบบที่ต้องการประหยัดพลังงาน
ถ้างานของคุณต้องการเพียง การสตาร์ทนุ่มนวล และไม่จำเป็นต้องควบคุมความเร็ว ให้เลือก Soft Starter
แต่ถ้าต้องการ ควบคุมความเร็วรอบมอเตอร์และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน เลือก Inverter จะตอบโจทย์กว่า
เพิ่มเพื่อน - ติดต่อสอบถาม
Line : @FACTORIPRO






