ปะเก็นมีกี่แบบ? ใช้แก้รั่วตรงไหนถึงจะอยู่หมัด
ปะเก็นคืออะไร?
ใช้แก้รั่วตรงไหนถึงจะอยู่หมัด
ปะเก็น (Gasket) คือวัสดุซีลกันรั่วที่ใช้ประกอบระหว่างผิวสัมผัสสองชิ้น เช่น หน้าแปลนท่อ ปั๊ม หรือเครื่องจักร เพื่อป้องกันไม่ให้ของเหลวหรือแก๊สรั่วออกมา โดยทั่วไปจะเลือกใช้ตาม แรงดัน, อุณหภูมิ, และชนิดของของเหลว ที่อยู่ในระบบ

ปะเก็นมีกี่แบบ? ใช้งานต่างกันยังไง
1.ปะเก็นแบบอโลหะ (Non-metallic Gasket)

ปะเก็นประเภทนี้ทำจากวัสดุที่ไม่ใช่โลหะ เช่น ยาง, กระดาษ, ไฟเบอร์, PTFE (เทฟลอน)
- คุณสมบัติ: ยืดหยุ่นสูง ปิดผนึกดี เหมาะกับแรงดันต่ำถึงปานกลาง
- การใช้งาน: ท่อน้ำ ปั๊ม วาล์ว ระบบอากาศ และงานทั่วไปในโรงงาน
2.ปะเก็นโลหะ (Metallic Gasket)

ใช้ในระบบที่มีแรงดันและอุณหภูมิสูง เช่น หม้อไอน้ำหรือท่อไอน้ำ
- วัสดุยอดนิยม: สแตนเลส ทองแดง อะลูมิเนียม
- คุณสมบัติ: แข็งแรง ทนร้อน ทนแรงอัดสูง อายุการใช้งานยาวนาน
- การใช้งาน: หน้าแปลนในระบบไอน้ำ ระบบความดันสูง และอุตสาหกรรมหนัก
3.ปะเก็นแบบผสม (Composite Gasket)

เป็นการผสมวัสดุโลหะและอโลหะเข้าด้วยกัน เช่น Spiral Wound Gasket หรือ Jacketed Gasket
- คุณสมบัติ: ยืดหยุ่นดี แต่ยังคงความแข็งแรง ทนแรงดันและอุณหภูมิสูงได้
- การใช้งาน: ใช้ในระบบท่อของโรงกลั่น โรงไฟฟ้า หรือระบบน้ำมัน
4.ปะเก็นเหลว (Liquid Gasket)

เป็นสารซีลกันรั่วแบบเหลว ใช้ทาเคลือบระหว่างพื้นผิวก่อนประกบเข้าด้วยกัน
- คุณสมบัติ: ปิดผนึกดีเยี่ยม ใช้งานง่าย ไม่ต้องตัดขึ้นรูป
- การใช้งาน: งานประกอบเครื่องยนต์ ฝาครอบเกียร์ เครื่องจักรขนาดเล็ก และงานซ่อมบำรุง
เลือกปะเก็นให้เหมาะกับลักษณะงาน = จบปัญหารั่วได้ “อยู่หมัด”
ถ้าแรงดันต่ำใช้ปะเก็นยาง, ถ้าแรงดันสูงใช้แบบโลหะ, ถ้าเจอสภาพผสมให้เลือกแบบ Composite และถ้างานซ่อมเฉพาะจุด ปะเก็นเหลวคือคำตอบ!
ช่างแต่ละคนมีปะเก็นคู่ใจต่างกัน คุณใช้แบบไหนแล้วแก้รั่วได้ดีที่สุด?
เพิ่มเพื่อน - ติดต่อสอบถาม
Line : @FACTORIPRO





