วิธีตรวจเช็กคาปาซิเตอร์ในตู้ควบคุมไฟฟ้า
วิธีตรวจเช็กคาปาซิเตอร์ในตู้ควบคุมไฟฟ้า
“คาปาซิเตอร์ (Capacitor)” หรือ “ตัวเก็บประจุ” ถือเป็นอุปกรณ์สำคัญในระบบไฟฟ้าโรงงาน โดยเฉพาะใน ตู้ควบคุมไฟฟ้า (Control Panel) ซึ่งช่วยในการปรับปรุงค่า Power Factor ลดภาระของระบบไฟ และช่วยให้มอเตอร์ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ แต่เมื่อใช้ไปนาน ๆ คาปาซิเตอร์อาจเสื่อมสภาพ ทำให้ไฟตก มอเตอร์ร้อน หรือระบบไฟฟ้าสั่นผิดปกติได้
วันนี้ Factoripro จะพาช่างมาดู วิธีตรวจเช็กคาปาซิเตอร์ในตู้ควบคุมไฟฟ้า แบบเข้าใจง่าย ปลอดภัย และแม่นยำ

ขั้นตอนการตรวจเช็กคาปาซิเตอร์ในตู้ควบคุมไฟฟ้า
1.ตัดแหล่งจ่ายไฟก่อนทุกครั้ง
ก่อนเริ่มตรวจสอบ ให้ ตัดเบรกเกอร์หลัก (Main Breaker) และยืนยันว่าไม่มีไฟตกค้างในตู้ เพื่อความปลอดภัย 100%
Tip: ใช้เครื่องทดสอบไฟ (Test Pen หรือ Multimeter) ตรวจสอบว่าตู้ไม่มีไฟหลงเหลือก่อนเริ่มงานทุกครั้ง
2.ปลดประจุไฟฟ้าในคาปาซิเตอร์ (Discharge)
คาปาซิเตอร์ยังเก็บไฟไว้แม้จะปิดระบบแล้ว ให้ใช้ตัวต้านทาน (Resistor) หรือไขควงพร้อมฉนวนแตะขั้วให้ปลดประจุออกก่อน
ห้ามแตะขั้วคาปาซิเตอร์โดยตรง — อาจโดนไฟดูดได้!
3.ตรวจสภาพภายนอกของคาปาซิเตอร์
ดูว่ามีรอยบวม แตก หรือมีน้ำมันรั่วออกมาหรือไม่ เพราะนั่นคือสัญญาณว่าอุปกรณ์เสื่อมสภาพแล้ว ควรเปลี่ยนใหม่ทันที
4.วัดค่าความจุด้วยมัลติมิเตอร์ (Multimeter)
ตั้งมัลติมิเตอร์ไปที่โหมด “Capacitance” (สัญลักษณ์ µF) แล้วแตะปลายโพรบที่ขั้วของคาปาซิเตอร์
เปรียบเทียบค่าที่วัดได้กับค่ามาตรฐานบนตัวคาปาซิเตอร์ (เช่น 30µF ±5%)
หากค่าที่วัดได้ต่ำกว่าค่ามาตรฐานมากกว่า 10–20% แสดงว่าคาปาซิเตอร์เสื่อมแล้ว
5.ทดสอบคาปาซิเตอร์ขณะโหลด (ภายใต้การทำงานจริง)
ในระบบอุตสาหกรรม ควรมีการตรวจเช็กค่า Power Factor (PF) และกระแสไฟ (Current) เพื่อดูประสิทธิภาพรวมของคาปาซิเตอร์แบงค์
Tip: หากค่า PF ต่ำกว่า 0.85 ควรตรวจสอบหรือเพิ่มคาปาซิเตอร์เสริมในระบบ
คาปาซิเตอร์ในตู้ควบคุมไฟฟ้าเป็นอุปกรณ์ที่มีผลโดยตรงต่อเสถียรภาพของระบบไฟฟ้าในโรงงาน ตรวจเช็กเป็นประจำทุก 6 เดือน จะช่วยลดปัญหาไฟตก มอเตอร์ร้อน หรือเบรกเกอร์ตัดโดยไม่ทราบสาเหตุ เลือกใช้คาปาซิเตอร์คุณภาพดี และหมั่นดูแล จะช่วยให้ระบบไฟฟ้าของโรงงานทำงานได้เต็มประสิทธิภาพทุกวัน
เพิ่มเพื่อน - ติดต่อสอบถาม
Line : @FACTORIPRO





